กุมภาพันธ์เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขการแสดงถึงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่
เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14
กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักหรือ Valentine’s Day และวันนี้ยังมีคิวปิด
หรือกามเทพ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
คิวปิดเป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของ
คิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จักก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร
มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน ปัจจุบัน คิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็น
เครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จัก มากที่สุด
และความรักของเขามีกล่าวถึงบ่อยในภาพของ การยิงศรรัก ระหว่าง หัวใจสองดวงให้รักกัน
เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด เราจึงมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยว
กับประวัติความเป็นมาและความสำคัญ ของวันนี้กันค่ะ
|
วันวาเลนไทน์ นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน
ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่
ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน
ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่
15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia
การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยัง สืบทอดต่อกันมา คือ
คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia
นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก
เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก
แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้
ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการ
ที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด
ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น
กรุงโรมได้เกิดสงครามหลายครั้ง
และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม
และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ
ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง
ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม
ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญ "
วาเลนไทน์ "
ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สองท่าน นักบุญ
วาเลนไทน์ และนักบุญ มาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็กๆ
เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้
และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับๆด้วย
และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้
นักบุญ วาเลนไทน์ ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศรีษะ
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270
ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์
|
|
| |
.. ทำไมจึงชื่อ " วันวาเลนไทน์ " ..
วันที่ 14
กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันวาเลนไทน์
ซึ่งพวกหนุ่มสาวมักจะรีบไปซื้อบัตรส่งทักทายกันส่งใจถึงกัน
นับเป็นความนิยมมากขึ้น ประเพณีนี้เข้ามาสู่ประเทศไทยทีละเล็กละน้อย
และดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี
เป็นประเพณีที่หนุ่มสาวนิยมกันมากเป็นพิเศษที่สหรัฐอเมริกาและที่ประเทศอังกฤษ
ทำไมจึงมีชื่อว่า “
วันวาเลนไทน์ ” และความหมายที่แท้จริงของวันนี้คืออะไร?
และมาจากไหน?
นักบุญ
วาเลนไทน์ (Valentine)
เป็นสงฆ์คาทอลิกองค์หนึ่งที่ได้ถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คริสตศักราช
270 ในสมัยพระเจ้าจักรพรรดิโรมัน เกลาดิอุส ที่ 2 ( Clanoius)
โดยแท้จริงแล้วท่านนักบุญไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเพณีการเลือกคู่ หรือหาคู่
หรือหาแฟน หรือความรัก ความสนใจระหว่างหนุ่มสาว ท่านก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วยเลย
ถ้าเช่นนั้นแล้ว
ทำไมจึงเลือกนักบุญองค์นี้มาเป็นองค์อุปถัมภ์สำหรับผู้ที่กำลังหาคู่
เลือกคู่หรือเลือกแฟนกันได้เล่า ? เหตุผลที่ค้นพบได้ก็คือ ที่มาของวันวาเลนไทน์
ไม่ขึ้นอยู่กับคนผู้นี้ แต่ขึ้นอยู่กับวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ประเพณีเลือกคู่
หรือหาคู่นี้มีมาแต่โบร่ำโบราณในทุกชาติ
ดูเหมือนกับว่าได้เกิดขึ้นพร้อมกับวิวัฒนาการของมนุษย์ก็ว่าได้ ประเพณี
วาเลนไทน์ นี้ก็มีต้นเหตุหรือ
ที่มาสมัยที่จักรวรรดิโรมันแผ่อิทธิพลไปทั่ว ชาวโรมันสมัย
โบราณมีการฉลองเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ ลูแปร์คูส (Lupercus) ซึ่งตรงกับวันที่ 15
กุมภาพันธ์ และถือว่าเป็นการฉลองใหญ่
ส่วนหนึ่งของการฉลองใหญ่นี้ก็จะเป็นการจัดงานหาคู่ของพวกหนุ่มสาว
ซึ่งจัดขึ้นในวันก่อนวันฉลองใหญ่ 1 วัน คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์
นี้จะถือโอกาสให้พวกหนุ่มสาวเสนอตัวเป็นคนรักกันชั่วระยะเวลา 1 ปี
ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงทดลองมิตรภาพเพื่อดูว่าทั้งคู่จะมีนิสัยใจคอเข้ากันได้หรือไม่
ชาวโรมันเป็นคนศรัทธาในเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
ก็มีความเชื่อกันว่าพวกตนมีเทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งเขาขอให้เป็นผู้ดูแลความรักของเขาในระหว่างช่วงระยะเวลาการทดลองเป็นคู่รักกัน
1 ปี นั้น เทพเจ้าองค์นี้เป็นหญิงชื่อเทพธิดา Juno Februata ซึ่งตาม
เทพนิยายของชาวโรมันเป็นมเหสีของ Jupiter องค์มหาเทพเจ้าทั้งหลาย
ครั้นต่อมา
เมื่อชาวโรมันส่วนใหญ่กลับใจมาถือศาสนาคริสต์ (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 4 )
ประเพณีของหนุ่มสาวที่จะหาคู่เพื่อทดลองเป็นคนรักกัน
เพื่อจะแต่งงานกันในเวลาต่อไปนั้นก็ยังนิยมทำกันอยู่ แม้ว่าจะเป็นคริสตชนแล้วก็ตาม
ฉะนั้นเขาก็ยังรักษาประเพณีการเลือกคู่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นอยู่ตลอดมา
เพียงแต่ว่าหนุ่มสาว โรมันชาวคริสต์ได้หันมาเปลี่ยนตัวผู้อุปถัมภ์องค์ใหม่
เพราะคริสตชนไม่นับถือเทพเจ้าหรือเทพธิดาอย่างกาลก่อน
เขาจึงหันมาเลือกหานักบุญในคริสตศาสนาที่มี วันฉลองในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็มี
นักบุญวาเลนไทน์องค์นี้เอง
จึงขอยืมชื่อท่านมาเป็นองค์อุปถัมภ์แทนเทพเจ้าเดิมของชาวโรมัน
เรื่องราวความเป็นมามีดังนี้
ฉะนั้นถ้าท่านนักบุญมีชีวิตอยู่ท่านอาจรู้สึกงงงวยในตำแหน่งที่หนุ่มสาวได้เลือกตั้งและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้อุปถัมภ์
โดยที่ท่านไม่ได้รู้เรื่องทางโลกของหนุ่มสาวด้วยเลยแม้แต่น้อย
ความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นอาจจะเผชิญกับอันตรายบางอย่าง
และอาจจะเป็นโอกาสให้พลังและความรักนั้นทำลายความสัมพันธ์อันสูงส่งระหว่างหนุ่มสาวนั้นเอง
ความหมายของการมี วันวาเลนไทน์
นี้ก็คือการช่วยหนุ่มสาวหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันด้วยใจบริสุทธิ์
ความหมายเห็นได้ชัดในคำว่า “You are
my Valentine” ที่มักจะเขียนลงในบัตรส่งใจถึงกันและกัน ประโยคตามความหมายเดิม
หมายถึงว่า “ข้าพเจ้าขอเสนอตัวเป็นเพื่อนสนิทของท่านในช่วงเวลา 1 ปี
และข้าพเจ้าพร้อมที่จะตกลงแต่งงานกับท่าน ถ้ามิตรภาพของเรานี้เป็นสิ่งที่ยืนยง”
ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวที่จะช่วยให้ก้าวหน้าในความรักที่แท้จริงนั้น
ก็ควรจะประกอบด้วย 3 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1.
ให้รู้จักกันทั้งในด้านดี ในด้านเสีย และข้อผิดพลาดซึ่งต่างก็มีอยู่
และยอมรับซึ่งกันและกันในข้อเหล่านั้น 2. ให้เคารพและเห็นใจกัน
โดยเสียสละต่อกันเพื่อให้คนรักของตนได้รับความดี
และความสุขใจในทางที่บริสุทธิ์งดงาม 3. ให้มีการปรับปรุง และเปลี่ยนนิสัยของตนในส่วนที่บกพร่อง
เพื่อจะอยู่กันด้วยความสุขในอนาคต
ลักษณะทั้งสามดังกล่าวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับหนุ่มสาวไทยไม่เฉพาะ
ในวันวาเลนไทน์หรือสำหรับกลุ่มที่นิยมประเพณีต่างประเทศเท่านั้น
แต่สำหรับทุกคู่ที่แสวงหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันอัน
จะนำไปสู่ความรักที่มั่นคงและยั่งยืนชั่วชีวิต
|
|
| |
.. คิวปิด ..
คนทั่วไปรู้จัก
คิวปิด ในภาพของเด็กน่ารักที่มีปีก
มือถือคันธนูกับลูกศรและมีชื่อเสียงในเรื่องการยิงศรรักปักหัวใจของใครต่อใคร
ศรรักของ คิวปิด หมายถึงความปรารถนาและอารมณ์แห่งความรัก
คิวปิด
จะเล็งลูกศรไปที่พระเจ้าและมนุษย์เพื่อทำให้พระเจ้ากับมนุษย์รักกัน คิวปิดมักจะมีบทบาทในการเฉลิมฉลองความรัก
ในกรีกโบราณ คิวปิด เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า เอโรส ลูกชาย
แอฟโพไดท์ เทพธิดาแห่งความรักและความสวยงามแต่สำหรับพวกโรมัน เขาคือ คิวปิด
และแม่ของเขาคือ วีนัส
มีเรื่องน่าสนใจพอสมควรเกี่ยวกับ คิวปิด และ
ไซคี เจ้าสาวของเขาในเทพนิยายโรมัน
ผมขอแนะนำผู้อ่านให้รู้จักคู่รักของ คิวปิด
สักนิดนะครับว่าเธอเป็นเทพธิดารูปงามในนิยายกรีกโบราณมีปีกเป็นผีเสื้อ
และเพราะความงามนี้เองที่ทำให้ วีนัส อิจฉา นางจึงได้สั่ง คิวปิด
ให้ลงโทษว่าที่ลูกสะใภ้เสีย แต่ คิวปิด
ตกหลุมรักเธอเกินกว่าที่จะทำตามความต้องการของแม่ ดังนั้น แทนที่จะลงโทษเธอ
คิวปิด กลับเอาเธอเป็นภรรยาเสียเลย แต่เนื่องจาก ไซคี
มิได้เป็นอมตะ เธอจึงถูกห้ามมิให้มองเขา (ตรงนี้ผมไม่ทร
าบเหมือนกันนะครับว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ได้เธอเป็นภรรยาแล้วภรรยามองไม่ได้
แต่อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ
เพราะเทพนิยายฝรั่งก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากละครน้ำเน่าบ้านเรา)
หลังจากตกเป็นภรรยาของ คิวปิด แล้ว
ไซคี ก็มีความสุขเรื่อยมา (ก็แหงละ) จนกระทั่งพี่สาวของเธอได้รบเร้าให้เธอมอง
คิวปิด ทันทีที่เธอมอง คิวปิด คิวปิด ก็ลงโทษเธอด้วยการทิ้งเธอไปทันที
พร้อมกันนั้นปราสาทและสวนอันสวยงามของเธอก็ต้องมลายหายไปด้วย หลังจากนั้นไซคี
ก็พบว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในทุ่งโล่งแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆหรือ
คิวปิด ปรากฏให้เห็นเลย
ในขณะที่เธอออกเดินทางค้นหาคนรักของเธอนั้น เธอก็มาถึงวิหารของ วีนัส
โดยบังเอิญ เมื่อ วีนัส เทพธิดาแห่งความรักพบว่า ไซคี ยังมีชีวิตอยู่
เธอก็ปราถนาที่จะ ทำลาย ไซคี ด้วยการให้งานที่หนักและอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
งานสุดท้ายที่ ไซคี ได้รับมิใช่งานขับเครื่องบินชนตึกเวิร์ลเทรดครับ
หากแต่เธอได้รับกล่องใบหนึ่งมาและได้ถูกสั่งให้ลงไปยังใต้โลกเพื่อเอา ความงามของ
โพรเซอร์พีน ภรรยาของ พลูโต ใส่กล่องใบนี้มา ในระหว่างที่เธอเดินทางอยู่นั้น
เธอก็ได้รับคำแนะนำให้รู้จักการหลีกเลี่ยงอันตรายจากอาณาจักรแห่งความตาย
นอกจากนั้นแล้ว เธอยังได้ถูกเตือนมิให้เปิดกล่องใบนั้นอีกด้วย
แต่เพราะทนไม่ไหวหรือเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรก็ไม่ทราบ
เธอได้เปิดกล่องใบนั้น แต่แทนที่จะพบกับความงาม เธอกลับต้องหลับเป็นตาย
ต่อมา คิวปิด
ได้มาพบร่างอันไร้ชีวิตของเธอบนพื้นดิน
เขาจึงได้นำเอาอาการหลับเป็นตายออกจากร่างของเธอและนำมันไปเก็บไว้ในกล่อง
หลังจากนั้น คิวปิด ก็ได้ให้อภัยเธอเช่นเดียวกับ วีนัส
เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายเห็นความรักที่เธอมีต่อ คิวปิด
จึงได้ตั้งให้เธอเป็นเทพธิดาองค์หนึ่ง
ปัจจุบันนี้รูป คิวปิด
แผลงศรเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่ผู้คนมักนิยมใช้กัน และเมื่อศรรักของ คิวปิด
พุ่งโดนหัวใจหนุ่มสาวคนใดในวันวาเลนไทน์ หนุ่มสาวคนนั้นก็จะออกอาการ "สติวปิ้ด"
จากศรรักของ คิวปิด ขึ้นมาทันที อาการนี้จะเห็นได้จากการส่งดอกกุหลาบสีแดง
ส่งช็อคโกแล็ต การส่งบัตรอวยพรและอื่นๆ อีกครับ
หมายเหตุท้ายบท : "สติวปิ้ด"
เป็นภาษาอังกฤษแปลว่า "โง่" ครับ เหมือนคำบางคำที่เราอาจเคยได้ยินว่า
"ความรักบางครั้งก็ทำให้คนตาบอด และ มองไม่เห็นข้อบกพร่องของคนที่เรารัก"
อ่านตำนานของเทพ อีรอส(Eros)
หรือคิวปิด(Cupid)ฉบับเต็มได้ที่นี่
|
|
| |
.. ดอกไม้ " วันวาเลนไทน์ " ..
 มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว
เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลาย รูปแบบ
ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย
|
|
 กุหลาบตูม
หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
|
|
|
 กุหลาบบาน
หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น
|
|
|
 กุหลาบดำ
หมายถึง ความรักนิรันดร์
|
|
|
 กุหลาบแดง (red
rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ"
การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความ หมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง
กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้
ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน
|
|
|
 กุหลาบขาว (white
rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์
กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน
หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้
|
|
|
 กุหลาบชมพู (pink
rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน
การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรัก ที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ
และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้
|
|
|
 กุหลาบเหลือง
(yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส
กุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความ
สนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย
เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง
|
|
|
 สำหรับดอกไม้อื่น
ๆ ที่ถูกมาใช้แทนความหมายแห่งความรักก็มี ดอกทิวลิบสีแดง (red tulib)
ชาวตะวันตกใช้มันแทนการประกาศความรัก อย่างเปิดเผย คล้าย ๆ
กับดอกกุหลาบแดง
|
|
|
 ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู (pink carnation) ใช้สื่อความหมายว่า
"ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ"
|
|
|
 ดอกลิลลี่สีขาว
(white lilly) แสดงความรักแบบบริสุทธ์ เช่นเดียวกันกับดอกกุหลาบขาว
นอกจากนั้นลิลลี่สีขาวยังแสดงถึงความรักแบบอ่อนหวานจริงใจ และเทอดทูน
และมักถูกใช้แทนประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้ได้รู้จัก และอยู่ใกล้คุณ "
|
|
|
 สำหรับดอก
forget-me-not มีความหมายตรงตัวคือได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ
ที่เคยมีให้กัน
|
|
|
 มาถึงดอกไม้ที่เห็นได้ทั่วไปในบ้านเราบ้างดอกทานตะวัน (sunflower)
มีความหมายถึงความรักแบบคลั่งไคล้ ความรักแบบบูชา แต่สำหรับชาวตะวันตก
ดอกทานตะวันจะหมายถึงความเข้มแข็งอดทน
จึงสามารถใช้แทนความรักที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะได้ความรักมา
|
จะเห็นได้ว่าดอกไม้เป็นประดิษฐกรรมทางธรรมชาติที่มนุษย์เรานำมาใช้เป็นสื่อแทนความหมาย
แห่งความรักได้หลายรูปแบบ
การมอบดอกไม้ให้กับคนที่เรามีความรู้สึกพิเศษจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ...
Vlentine
นี้คุณมีดอกไม้ในใจที่จะให้คนที่คุณรักแล้วหรือยัง
|
|
|
วันวาเลนไทน์ในประเทศญี่ปุ่น วันวาเลนไทน์กับชอคโกแลต
ช๊อกโกแล็ต
|
.. ชอคโกแลตกับวันวาเลนไทน์ ..
 ในวันวาเลนไทน์ที่ประเทศญี่ปุ่น
ฝ่ายหญิงนิยมที่จะมอบชอคโกแลตให้กับฝ่ายชาย
(ส่วนผู้ชายจะมอบของขวัญตอบแทนให้กับผู้หญิงในวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเรียกวันนั้นว่า
White Day หรือ วันสีขาว)
ความนิยมการมอบชอคโกแลตนั้นเกิดขึ้นมาจากการใช้เครื่องมือทางการตลาดของบริษัทผลิตชอคโกแลต
ผู้หญิงญี่ปุ่นถูกกระตุ้นให้บอกรักอย่างชัดเจนกับผู้ชายโดยการมอบชอคโกแลตและของขวัญชนิดอื่นในวันที่
14 กุมภาของทุกปี 
ร้านขายของชำ ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อจะขายชอคโกแลตที่หลากหลายมาก
ไม่ว่าจะเป็น ชอคโกแลตที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ
มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายชอคโกแลตทั้งปีนั้น จะมาจากช่วงวันวาเลนไทน์
เหตุก็เพราะผู้หญิงแดนอาทิตย์อุทัยจะซื้อชอคโกแลตเพื่อแจกให้กับทั้งเพื่อนร่วมงาน
หัวหน้า เพื่อนชาย พี่ชาย คุณพ่อ สามี แฟน
และผู้ชายที่เธอรู้จักและมีความยินดีที่จะมอบให้ 
ชอคโกแลตที่มอบให้กับผู้ชายที่เธอไม่ได้หลงรัก ถูกเรียกว่า “giri-choco” (แปลว่า
ชอคโกแลตที่ให้ตามหน้าที่ หรือ ชอคโกแลตตามมารยาท) เช่น
ชอคโกแลตที่มอบให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือกับหัวหน้างานเป็นต้น 
ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้สึกอับอายอย่างมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้รับชอคโกแลตในวันนี้
ผู้หญิงจึงพยายามมอบ giri-choco กับผู้ชายที่รู้จักทุกคน
เพียงเพื่อไม่ให้ผู้ชายต้องมีความรู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ได้รับการใส่ใจ
ราคาโดยเฉลี่ยของ giri-choco ตกประมาณอันละ 100 – 300 เยน 
ผู้หญิงบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะให้ของขวัญพิเศษกับคนที่ตนรัก เช่น เนคไทค์
และเสื้อผ้าควบคู่ไปกับชอคโกแลตด้วย ชอคโกแลตประเภทนี้จะเรียกว่า "honmei-choco."
(แปลว่า ผู้ชนะที่คาดหวังไว้ prospective winner) Honmei-choco จะมีราคาที่แพงกว่า
giri-choco และบางครั้งจะเป็นชอคโกแลตทำเอง
ซึ่งผู้ชายที่ได้รับนั้นถือว่าโชคดีมาก  ชอคโกแลตญี่ห้อดังของญี่ปุ่นได้แก่ Glico, Meiji และ Morinaga
แต่ผู้ชายบางคนมักจะพอใจกับชอคโกแลตทำเองมากกว่า
เพราะมันจะแสดงออกถึงความตั้งใจของคนทำนั่นเอง
บทความจาก Setsuko Yoshizuka
|
|
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
1. ปารีส
ประเทศฝรั่งเศส กรุงปารีสนับว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกมากที่สุดในโลก
ความโรแมนติกนั้นสามารถจำกัดความเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี
มีสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหลายแห่งเช่น Le Louvre, Feel Tower, Chams
Elysees, Sacre Coeur, Notre Dame, Arc de Triumphe, Euro Disnney,
Montparnasse, Centre Pompidou และอื่นๆอีกมากมาย
หากมีโอกาสลองหาเวลาไปเที่ยวสักครั้งหนึ่งก็ดีนะคะ
|
2. เวนิส
ประเทศอิตาลี
เมืองเวนิสเป็นเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเช่น ด้านสิ่งแวดล้อม
สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ ตามคลองต่างๆของเมืองเวนิสจะมีเรือแล่นไปมา
มีตึกอาคารที่เก่าแก่และถนนแคบๆแบบหวานโรแมนติกที่ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าตื่นเต้นเหมือนสวรรค์บนดินเลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจก็มีมากมายเช่น Ponte di Rialto, Piazza San Marco, Ponte dei
Sospiri และ Canale Grande
|
|
|
|
3.
น้ำตกไนแองการา เป็นน้ำตกที่กั้นพรมแดนระหว่างเมืองออนแทริโอ
ประเทศแคนาดาและเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
น้ำตกไนแองการาเป็นสถานที่ที่สามาถดึงดูดคู่รักฮันนีมูนจำนวนมากมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว
เพราะถือว่าเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีความสูงถึง 56 เมตร
และความยาวประมาณ 670 เมตร
สามารถมองเห็นวิวต่างๆที่สวยงามได้ซึ่งถ้าอยู่ฝั่งประเทศอเมริกาและบริเวณสะพานเรนโบก็จะมองเห็น
Queen Victoria Park ในฝั่งของประเทศแคนาดาด้วยระยะการมองเห็นที่ไกลถึง 300 เมตร
นอกจากนี้หากใครที่ต้องการไปดูถ้ำที่อยู่ทางด้านหลังของน้ำตกก็สามารถขึ้นลิฟต์ไปดูได้
|
4.
โออาฮู ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เกาะฮาวายเป็นเกาะที่สวยมากเกาะหนึ่งครอบคลุมพื้นที่ในหลายมหาสมุทร
ที่นี่มีลักษณะภูมิอากาศแบบอบอุ่นและได้รับการยอมับจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เกาะฮาวายเป็นเกาะที่โรแมนติกอีกแห่งด้วย
|
|
|
|
5.กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ในแถบยุโรปนั้นกรุงเวียนนาถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากที่สุดและมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม
กรุงเวียนนามีความภาคภูมิใจในประเพณีวัฒนธรรมของตัวเอง
ปัจจุบันนี้ผู้คนก็ยังสามารถที่จะดื่มไวน์ตามที่พักข้างถนนได้เหมือนกับเมื่อหลายศตวรรษก่อนและนั่งรถม้าไปมาได้เหมือนเดิม
กรุงเวียนนาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมและความรุ่งเรืองด้านสถาปัตยกรรม
ศิลปะและมีมรดกทางด้านดนตรีมากมายเช่น โบสถ์เซนต์สตีเฟน พระราชวังเชินบรุนน์
สวนสนุกพราเตอร์ พระราชวังฮอฟเบิร์ก พิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์ซิกมุนด์ฟรอยด์
สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น
กรุงเวียนนายังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง
|
6. ปราก
สาธารณรัฐเช็ก
กรุงปรากมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย มีทั้งอาหารอร่อย ปราสาทเก่าแก่
แหล่งชอปปิ้งราคาไม่แพงและยังได้สัมผัสกับผู้คนที่จิตใจดี
และที่นี่ยังเป็นบ้านของคาฟคาซึ่งเป็นนักเขียนชาวยิวที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งและยังเป็นสถานที่โปรดปรานของโมซาร์ทอีกด้วย
มีสะพานชาร์ลที่ข้ามแม่น้ำวัลตาวาซึ่งมีความงดงามมากด้วยสายน้ำที่คดเคี้ยวและมีปราสาทHradcanyหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ด้วย
สำหรับย่านเมืองเก่าก็จะมีถนนสายเล็กซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก
เพราะตั้งอยู่บริเวณที่มีภัตคาร ร้านอาหารมากมายที่สามารถหาซื้อสินค้าคุณภาพดี
อาหารอร่อยๆและราคาก็ไม่แพงด้วย บริเวณจัตุรัส Wenceslas
ก็มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมและของที่ทันสมัยต่างๆ
นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อสิ่งของทุกอย่างได้ที่นี่ไม่แพ้เมืองใหญ่ๆอย่างเบอร์ลิน
ลอนดอนและปารีสเลย
และที่ได้กำไรคือวิวสวยๆของกรุงปรากที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและคุณจะเข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงได้ฉายาว่า
“ City of a hundreded spires”
|
|
|
|
7. ริโอ
เดอ จาเนโร
ประเทศบราซิล
เมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในโลกเหมือนกัน
ตั้งอยู่ในคาบมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกาใต้
เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดที่สวยงาม
เนินเขาที่ยกสูงขั้นและปกคลุมด้วยป่าไม้เขตร้อนทำให้สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของเมืองนี้
เมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องงานคานิวัลประจำปีที่ยิงใหญ่
มีการแสดงดนตรีทั้งกลางวันและกลางคืน ร้องเพลง งานสังสรรค์
ขบวนพาเหรดของนักเต้นจังหวะแซมบ้าเก่งๆหลายคน และสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆเช่น
Sugar-Loaf, the Redemptor Christ, the Downtown Rio, Old Rio และชายหาด Copacabana
และ Ipanema ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานคานิวัล
|
8. เมือง
Punta Cana
สาธารณรัฐโดมินิกัน
เมืองนี้ได้ถูกค้นพบใน ค.ศ. 1492 โดยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
ปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 3 ล้านคนต่อปีที่มาเที่ยวชมสาธารณรัฐโดมินิกัน
ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงวันหยุดในแถบทะเลแคริบเบียน
เพราะชายหาดที่นี่เป็นสีทองอร่าม น้ำทะเลเป็นสีฟ้าคริสตัล มีหุบเขาที่เงียบสงบ
ภูเขาสูงใหญ่จึงทำให้ที่เหมาะแก่กันมาฮันนีมูนมากค่ะ
|
|
|
|
9.
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ประเทศรัสเซีย
ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
และงานสถาปัตยกรรมก็จัดว่าเป็นอันดับหนึ่งในยุโรปเลยก็ว่าได้
ผู้คนที่นี่สุภาพและเก่งๆกันทั้งนั้น
และคนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเมืองอันเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมจึงถือว่าเป็นพวกชาวรัสเซียที่มีความรู้ดี
ที่นี่มีโรงละครขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเช่น โรงละครมาริรินสกาย มาลี
Gorky และโรงละครสำหรับแสดงดนตรี
มีพิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและสเตทรัสเซียซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวาดภาพของรัสเซีย
สถานที่น่าสนใจอื่นเช่น Alexander Column ตรงกลางของ Palace Square อนุสาวรีย์
Bronze Horseman เพื่อรำลึกถึงปีเตอร์เกรท ปราสาทเซนต์ไมเคิล วิหาร Yusupov
ป้อมปราการปีเตอร์แอนด์พอล เกาะVasilevsky Nevsky Propect และ Pushkin
Flat-Museum
|
10. อัมสเตอร์ดัม
ประเทศฮอล์แลนด์
เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์เพราะมีการสะสมศิลปะเก่าแก่มากมาย
มีทั้งสีสันต่างๆ ดอกทิวลิป กังหันลมและจักรยาน เมืองนี้มีอายุราว 700 ปีแล้ว
มีแม่น้ำสายเก่าแก่
บ้านขุนนางโบราณและบรรยากาศแห่งความเสรีภาพและความอดทนทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่พิเศษ
ความโรแมนติกของเมืองนี้อยู่ที่บ้านเรือนที่เก่าแก่
คลองที่พาดผ่านศูนย์เช่นถนนสายต่างๆ เรือนแพ กังหันลม จักรยาน ตึกอาคาร
โบสถ์และเสียงระฆังที่ดังราวกับเสียงดนตรี
นอกจากนี้ยังมีภัตคารอาหารจีนและอินโดนีเซียที่มีชื่อเสียงและเป็นย่านสีแดงที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย
|
|
|
| |
|
|
| American Movie |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| Japan Movie |
Korea Movie
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
กลอนวันวาเลนไทน์
กลอนวาเลนไทน์
|
|
|
|
|
|
|
|
การ์ดวันวาเลนไทน์
|