วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ชื่ออาหารไทยในความตะลึง…ตึง…ตึง…ของฝรั่ง



     ใต้เงาเทียนอันสลัวของร้านเล็ก ๆ ริมถนนย่านบางลำพู สี่สาวไทยกับหนึ่งหนุ่มฝรั่งนั่งรออาหารที่สั่งพรางวิพากษ์วิจารณ์ถึงชื่อของอาหารกันอย่างออกรส โดยเฉพาะหนุ่มฝรั่งที่ต้องมานั่งฟังการแปลชื่อของอาหารนั้นทั้งขำทั้งทึ่งเพราะแถวบ้านเขานั้นไม่มีการตั้งชื่ออะไรให้มีนัยยะของที่มาที่ไปอะไรขนาดนี้แม่อบเชยรู้สึกปลื้มในความคิดอันแยบยลของบรรพบุรุษเสียจริงที่ท่านมีเวลามานั่งประดิษฐ์คิดชื่อของอาหารให้ลูกหลานได้มานั่งถกกันเล่นเป็นที่เพลิดเพลินเรียก
น้ำย่อยก่อนจะถึงเวลาลงมือจริง 



 


     เราเริ่มกันที่ “ข้าวผัดสิบสามห้าง” ซึ่งพอดีมาก่อนจานอื่นค่ะ ทันทีที่ได้ยินชื่อว่า “Fried Rice of 13 Department Stores” เพื่อนแม่อบเชยก็เขี่ยข้าวเสียจนทั่วจานเลยค่ะ เพื่อดูว่ามีห้างอะไรบ้างอยู่ในข้าวผัดของเขา แต่ก็ไม่เจอสักห้างไม่ว่าจะเป็น ดิ เอ็มโพเรียม เซ็นทรัลพลาซ่า หรือว่า เวิร์ลดเทรด เซ็นเตอร์ กระทั่งเดอะมอลล์สาขาใด ๆ ก็ตาม เลยสงสัยกันว่าแล้วมันมีห้างอะไรล่ะอยู่ในข้าวผัด?
ความจริงนั้น สมัยก่อนนี้เราจะมีการเรียกชื่ออาหารจานเด็ดของแต่ละย่านโดยเรียชื่อสถานที่พ่วงเข้าไปกับชื่อของอาหาร เช่น เดี๋ยวนี้เราก็มี ข้าวขาหมูตรอกซุงมีข้าวมันไก่ประตูน้ำ หมูย่างเมืองตรังนะคะ แต่ว่าจะไม่มีใครสงสัยเพราะสถานที่ที่พูดถึงนั้นยังร่วมสมัยกับเราอยู่ แต่ถนนสิบสามห้างนั้น เป็นย่านทันสมัยของคนสมัยก่อนซึ่งคนรุ่นนี้มีไม่กี่คนที่รู้ว่าเคยเป็นแหล่ง ช้อปปิ้งของคนทันสมัยและมีร้านขายข้าวผัดเลื่องชื่อจนเรียกกันว่าข้าวผัดสิบสามห้าง จนตอนหลังก็กลายพันธุ์มาเป็น ข้าวผัดสูตรสิบสามห้างที่ไปขายที่ไหนก็ใช้สูตรเดียวกันจนได้ชื่อว่า ข้าวผัดสิบสามห้างเรื่อยมานั่นเองค่ะ



 


     จากนั้นก็มาว่ากันที่ “ก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับ” ค่ะ ไม่รู้เจ้าไหนเป็นเจ้าแรกเพราะเห็นโกฮับเจ้าเก่าเต็มไปหมด แถมยังมีลูกโกฮับ หลานโกฮับ เหลนโกฮับเพื่อนโกฮับ ญาติโกฮับกันไปทั้งเมืองเลยค่ะ และเดี๋ยวนี้ก้าวหน้า ไปอยู่ในซอง”มาม่า”บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเรียบร้อยแล้ว แม่อบเชยก็ไม่แน่ใจนะคะว่าเป็นสูตรของญาติฝ่ายไหนของโกฮับ ยังไม่ได้ตามไปจับประเด็นข่าวกันเลยค่ะ รู้แต่ว่าต่อให้ 

”ก๋วยเตี๋ยวเรือไตตานิค” มาขายแข่งก็ยากที่จะเอาชนะใจคนไทยที่รักรสชาติอันเข้มข้นของก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับได้ 


 


     ไม่นาน ”ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ” ก็เดินทางมาถึง ชื่อน้ำพริกชนิดนี้เล่นเอาอึ้ง ไปหลายนาทีกว่าจะคลี่คลายสถานการณ์ได้ค่ะ เพราะเมื่อแปลไปแล้วได้ความว่าNamprink of Embarkation อันตัวน้ำพริกนั้นไม่ต้องสาธยายกันแล้วเพราะรู้จักพอสมควรแต่ทำไมมันจะต้องลงเรือนี่สิ กลายเป็นประเด็นกันขึ้นมา ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านอธิบายเอาไว้ว่า เพราะในสมัยก่อนเวลานั้น เวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องไปด้วยเรือ แถมเรือที่ว่าก็ใช่จะเร็วปรู๊ดปร๊าดเป็นเรือยอร์ชเสียที่ไหน เร็วไปตามกำลังฝีพายเท่านั้น ผู้เดินทางก็จึงต้องเตรียมข้าวปลา
อาหารไปรับประทานระหว่างการเดินทางด้วย น้ำพริกสะดวกในการจัดลงเรือนั้นก็คือน้ำพริกชนิดนี้ เพราะข้นมาก ไม่หกเลอะเทอะ ตอนแรกๆ ก็ยังไม่มีชื่อหรอกค่ะแต่ไปๆ มาๆ ก็ได้ชื่อว่า ”น้ำพริกลงเรือ” เพราะนิยมนำไปเป็นเสบียงสำหรับการเดินทางด้วยเรือนั่นเองค่ะ




      อีกจานค่ะ เป็น ”น้ำพริกหนุ่ม” ที่คู่กันมากับแคบหมู เมื่อต้องแปลว่าNamprik of a Young Man ก็ยิ่งงงกันเข้าไปใหญ่ ทำไมต้อง “YoungMan” ชายแก่ห้ามกินหรืออย่างไร แล้วสาว ๆ จะกินได้ไหม หรือได้เฉพาะหนุ่ม ๆ ?ความจริงนั้น “น้ำพริกหนุ่ม” เป็นคำเรียกชื่อตามส่วนประกอบที่เป็น ”พริกหนุ่ม”หรือ พริกที่ยังอ่อน ๆ อยู่ของคนเมืองเหนือซึ่งจะเรียกอะไรก็ตามที่ยังอ่อนอยู่ว่า”หนุ่ม” ทั้งนั้นค่ะ


 


      ที่นี้มาถึง “ผัดเป็ดกระแดะ” ค่ะ อุแม่เจ้า! แม่อบเชยก็งงเหมือนกัน เพราะดูหน้าตาของเป็ดที่ผัดมานั้นก็เห็นเรียบร้อยดี ไม่มีจริตจะก้านอะไรมากจนเกินงามไปพอที่จะให้นิยามว่า “กระแดะ” เสียหน่อย เลยถามพนักงานเสิร์ฟก็ยังไม่ได้ความเพราะเขาเองก็บอกได้แค่ว่ามันประกอบไปด้วยเป็ดกับซ้อสและผักสองสามอย่างเท่านั้นเองค่ะ แต่หลังจากตักเข้าปากไปสองสามคำ ก็พอจะนึกออกค่ะ ว่าทำไมได้ชื่อนี้ ซึ่งก็เพราะว่าเพื่อนที่แสนจะเรียบร้อยของแม่อบเชยนางหนึ่งอุทานว่า
“อ๊าาา… อร่อยจัง…ตัวเอ๊ง” นะสิคะ




     ไปลงเอยที่ “ผัดผัวเบื่อ” ซึ่งหมายถึงผัดหอยลายใบกะเพรา และเมื่อมาถึงชื่อนี้แม่อบเชยผู้เป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว เลยจำต้องบอกศาลาการอรรถาธิบายถึงที่มาที่ไปของอาหารจานนี้ค่ะ เพราะจนด้วยเกล้าที่จะแปลให้ไม่ขายหน้าห้าบาทหกสลึงจริงๆ และจนเดี๋ยวนี้ เพื่อนฝรั่งของแม่อบเชยก็ยังไม่รู้ว่าทำไม Fried shell with sweet basil จึงได้ชื่อว่า Fired of husband ‘s boresome เฮ่อ…บรรพบุรุษน่ะบรรพบุรุษ แม่อบเชยจะสรรเสริญท่านในเรื่องการตั้งชื่ออาหารต่อไปอีกดีไหมคะนี่….

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Amezon

comment