ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper samentosum Roxb.
วงศ์ PIPERACEAE
ชื่อสามัญ Cha-plu
ชื่ออื่นๆ "ผักปูนา","ผักพลูนก","พลูลิง","ปูลิง","ปูลิงนก","ผักแค","ผักปูลิง","ผักนางเลิด","ผักอีเลิด" |
|
ลักษณะ :
ชะพลูเป็นไม้ให้ใบสวย รูปร่างเหมือนหัวใจ ปลูกเป็นไม้ประดับก็ได้ ปลูกไว้กินก็ดี มีทั้งชะพลูแบบเป็นพุ่ม และชะพลูที่ทอดยอดเลื้อยสูงเหมือนใบชะพลูที่คุณยายใช้เคี้ยวหมากนั่นแหละ เกิดได้ทั้งในที่แสงแดดเต็มวัน ทั้งแสงแดดครึ่งวัน และแม้แต่แสงแดดรำไร เช่น ใต้ร่มไม้ใบใหญ่อย่างต้นมะม่วงหรือชายคาบ้าน ชอบดินร่วนซุย น้ำชุ่มชื้น แม้ดินแล้งน้ำแห้งก็อยู่ได้ เพียงแต่ใบจะแกรนเท่านั้น ก้านใบนูนเป็นเส้น ยาวพ้นออกมาเป็นก้านใบไปในตัว หน้าใบสีเขียวเข้ม หลังใบสีเขียวหม่น ดอกมีรูปร่างเป็นทรงกระบอกเล็กๆ มีสีขาว
ต้นชะพลูมีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ แบบทรงพุ่ม ต้นเตี้ย มีขนาดเล็ก และ แบบไม้เลื่อย
- ใบ: มีลักษณะคล้ายรูปหัวใจรูปทรงคล้ายกับใบพลู แต่มีขนาดใบเล็กกว่า มีสีเขียวเข้มเป็นใบเดี่ยว รสชาติเผ็ดอ่อนๆ
- ดอก: ออกบริเวณปลายยอด มีสีขาวอัดแน่นกันเป็นทรงกระบอกขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายดีปลีแต่สั้นกว่า
- การดูแล: ชะพลูเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบพื้นที่ลุ่ม มีความชื่น
- การขยายพันธุ์: วิธีการปักชำ โดยการเลือกกิ่งที่มีใบอ่อนและใบแก่ เด็ดใบแก่ออกและนำไปปักชำได้
|
|
คุณค่าทางอาหาร
คุณค่าสมุนไพรใบชะพลูนั้นได้แก่รากนั้นใช้ขับเสมหะ บำรุงธาตุ ใบมีคุณสมบัติเจริญอาหารและขับเสมหะ เถาและรากก็ใบขับเสมหะเหมือนกัน รับประทานใบชะพลูบ้างเพื่อปรับธาตุปรับสมดุลในร่างกาย แต่อย่ามากเกินเพราะอาจเป็นพิษกับตัวคนกินได้ ดังนั้นรู้จักความพอดีได้ ในใบชะพลู |
|
ประโยชน์ :
ในใบชะพลูมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายของมนุษย์อย่างมาก คือแคลเซียม และวิตามินเอ ซึ่งจะมีสูงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย และสารคลอโรฟิล ส่วนสรรพคุณทางยานั้นช่วยบำรุงธาตุ แก้จุกเสียด การกินใบชะพลูมากๆ ชนิดที่เรียกว่ากินกันทุกวัน กินกันแทบทุกมื้อ เช่น ชาวบ้านภาคอีสานนั้น แคลเซียมที่มีในใบชะพลูจะเปลี่ยนเป็นแคลเซียมออกซาเลท ซึ่งถ้าสะสมมากๆ อาจกลายเป็นนิ่วในไตได้ แต่โดยทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวันก็ไม่มีใครกินชะพลูได้มากมายขนาดนั้น ถ้ากินใบชะพลูต้องกินร่วมกับเนื้อสัตว์ ร่างกายจึงใช้แคลเซียมที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ |
|
สรรพคุณทางยา :
- ดอก : ทำให้เสมหะแห้ง ช่วยขับลมในลำไส้
- ราก : ขับเสมหะให้ออกมาทางระบบขับถ่าย ขับลมในลำไส้ ทำให้เสมหะแห้ง
- ต้น : ขับเสมหะในทรวงอก
- ใบ : มีรสเผ็ดร้อน ทำให้เจริญอาหาร ขับเสมหะ ในใบชะพลูมีสาร เบต้า-แคโรทีน สูงมาก
|
|
ข้อควรระวัง :
อย่างไรก็ตาม ชะพลูก็มีข้อควรระวังที่สำคัญนั่นคือไม่ควรกินใบชะพลูในปริมาณมากเกินไป เพราะมีสารออกซาเลต (Oxalate) ที่หากสะสมในร่างกายมาก ๆ จะทำให้เกิดนิ่วในไตได้ แต่หากเรารับประทานในจำนวนพอเหมาะ เว้นระยะบ้าง เชื่อกันว่าชะพลูจะช่วยปรับธาตุในร่างกายให้สมดุล |
|